ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ เดินทางมาถึงเกมรอบชิงชนะเลิศ โดยเป็นการพบกันระหว่าง 2 คู่รักคู่แค้นจากเมืองแมนเชสเตอร์ นั่นคือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี
ประเด็นสำคัญของเกมนี้ก็คือ แมนฯ ซิตี ที่กำลังลุ้น “ทริปเปิลแชมป์” หรือ 3 แชมป์รายการใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว 1 รายการ
ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กำลังลุ้น “ดับเบิลแชมป์” หลังจากได้แชมป์ “คาราบาว คัพ” ไปแล้ว
ที่สำคัญ แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมเดียวของอังกฤษที่เคยคว้า “ทริปเปิลแชมป์” 3 รายการใหญ่ดังกล่าว นั่นคือชุดไร้เทียมทาน ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี ค.ศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 1999
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี คู่แค้นร่วมเมือง คือทีมที่ 2 ที่มีโอกาสทำแบบนั้นได้ และทีมเดียวของอังกฤษ ที่จะหยุด “เรือใบสีฟ้า” ไม่ให้ทำได้ก็คือ “ผีแดง” นั่นเอง
เกมเอฟเอ คัพ 2023 รอบชิงชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ ในวันเสาร์นี้ จึงจะไม่ใช่ “ดาร์บี แมตช์” ธรรมดา แต่หมายถึงประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ทีม
ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นเกมรอบชิงชนะเลิศในรายการ “เมเจอร์” ของทั้ง 2 ทีม มันจึงการันตีความเดือดได้ตั้งแต่ยังไม่ต้องแข่ง และจะมีครบทุกรสชาติ
รายละเอียดจะเป็นยังไง และใครจะชนะ ไปดูกันเลย
เตะเมื่อไหร่-ถ่ายช่องไหน?
เกมนี้จะหวดกันที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย. 66 เวลา 21.00 น. ของประเทศไทย โดยถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 3 แฟนบอลสามารถรับชมได้ทั้งทาง beIN SPORTS โดยตรง หรือที่อยู่ในกล่อง AIS PLAY และ ทรูวิชั่นส์
แมนเชสเตอร์ ซิตี
“เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน แต่นัดส่งท้าย บุกแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 ทำให้มี 89 คะแนน เหนือกว่าอันดับ 2 อาร์เซนอล 5 คะแนน ส่วนผลงานในเอฟเอ คัพ ชนะมา 5 เกมรวดแบบไม่เสียประตู โดยรอบ 3 ชนะ เชลซี 4-0, รอบ 4 ชนะ อาร์เซนอล 1-0, รอบ 5 ชนะ บริสตอล ซิตี 3-0, รอบ 8 ทีม ชนะ เบิร์นลีย์ 6-0 และรอบตัดเชือก ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-0
เปป กวาร์ดิโอลา มีปัญหาต้องเช็กความฟิตตัวหลักหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, แจ๊ค กลีลิช, รูเบน ดิอาส หรือ มานูเอล อาคานจี แต่ที่เหลือพร้อม และคงขนชุดใหญ่ลงสนาม โดยนายทวารเป็น เอแดร์ซอน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟใช้ อายเมริค ลาปอร์ก กับ นาธาน อาเก
แบ๊กขวาเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์ และแบ๊กซ้าย จอห์น สโตนส์ ซึ่งจะขยับเข้าไปเล่นมิดฟิลด์ด้วย ร่วมกับ โรดรี แล้วใส่ อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด ซิลวา, ฟิล โฟเดน และ จูเลียน อัลวาเรซ ทำเกมรุกอยู่หลังหอกเป้าคือ เออร์ลิง ฮาลันด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ผีแดง” เร่งเครื่องชนะ 4 เกมรวดในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้จบด้วยการคว้าอันดับ 3 มี 75 คะแนน ได้กลับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง สัปดาห์ที่แล้ว บุกเฉือน ฟูแลม 2-1 ขณะที่เอฟเอ คัพ รอบ 3 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1, รอบ 4 ชนะ เรดดิง 3-1, รอบ 5 ชนะ เวสต์แฮม 3-1, รอบ 8 ทีม ชนะ ฟูแลม 3-1 และรอบรองชนะเลิศ ชนะจุดโทษ ไบรท์ตัน 7-6 หลังในเวลาเสมอ 0-0
เอริค เทน ฮาก หมดสิทธิใช้บริการ อองโตนี มาร์กซิยาล ที่เจ็บจากเกมกับ ฟูแลม และต้องเช็ก แอนโธนี ปีกบราซิล ที่เจ็บข้อเท้า ขณะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ดอนนี ฟาน เดอ เบค, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ฟิล โจนส์ รวมถึง เมสัน กรีนวูด หมดสิทธิลง
การจัดทัพใช้ ดาบิด เด เคอา เจ้าของถุงมือทองคำ เฝ้าเสา แดนหลัง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ยืนเซ็นเตอร์กับ ราฟาแอล วาราน โดยมี อารอน วาน บิสซากา และ ลุค ชอว์ เป็นแบ๊ก 2 ข้าง แดนกลาง คาเซมิโร ประจำการกับ เฟรด แล้วใช้ คริสเตียน อีริคเซน, เจดอน ซานโช บรูโน แฟร์นันด์ส ทำเกมรุกหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่จะถูกดันไปเล่นหน้าเป้า
เกร็ดที่น่าสนใจ
นี่จะเป็นการเจอกันในรอบชิงชนะเลิศรายการ “เมเจอร์” ครั้งแรกของทั้งคู่ โดยก่อนหน้านี้เคยเจอกันในเอฟเอ คัพ 9 ครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 6 แมนฯ ซิตี ชนะ 3 ไม่เคยเสมอ
ผีแดงยังชนะเรือใบ 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่เจอกันในเอฟเอ คัพ ล่าสุดคือ ม.ค. 2012 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือน 3-2
ส่วนเจอกันในลีก 2 นัด ชนะบ้านใครบ้านมัน นัดแรก ซิตี ถล่ม 6-3 นัด 2 ยูไนเต็ด เอาคืน 2-1
ขณะที่สถิติรอบชิงเอฟเอ คัพ เรือใบ ชิง 11 ครั้ง ได้แชมป์ 6 ครั้ง และผีแดง ชิง 20 ครั้ง ได้แชมป์ 12 ครั้ง
ความน่าจะเป็นของเกม
เทียบฟอร์มการเล่นล่าสุดแล้ว แม้ แมนฯ ซิตี จะแพ้ส่งท้ายฤดูกาล แต่วัดอะไรไม่ได้ และฟอร์มโดยรวมถือว่าสุดยอด เกมรับก็เหนียว เกมรุกก็คม แถมมี ฮาลันด์ เป็นตัวอันตราย
แต่แน่นอนว่าประมาท แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เด็ดขาด เพราะ เทน ฮาก ทำทีมเคี่ยว และนัดนี้จึงน่าจะวางหมากมาสู้ได้ดี โดยเน้นเกมรับแล้วโต้กลับ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าจะเอาอยู่หรือไม่
การขาด เดอ บรอยน์ หรือ กลีลิช ที่อาจจะเป็นแค่สำรองทั้งคู่ ถือว่าส่งผลในจังหวะทีเด็ดทีขาดของ แมนฯ ซิตี ไม่น้อย และผีแดงมีตัวประสบการณ์สูงอย่าง คาเซมิโร คุมกลาง กับ วาราน คุมหลัง
รูปเกมจึงน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี ที่บุกใส่ตามสไตล์ แต่เจาะเข้าไปยิงไม่ง่ายแน่ เกมน่าจะอึดอัดตลอด 90 นาที และมีโอกาสเสมอในเวลา หรืออาจถึงดวลจุดโทษก็เป็นได้
ผลที่คาด
เสมอกันใน 90 นาที 1-1