ล่าสุดแม้กระทั่งชื่อเรียกดินแดนที่เป็นภาษารัสเซียก็กำลังจะถูกเปลี่ยน พื้นที่ดังกล่าวมีชื่อว่า คาลินินกราด ตั้งอยู่ติดกับโปแลนด์และรัฐบาลโปแลนด์ไม่พอใจชื่อนี้ ประเด็นเสนอเปลี่ยนชื่อแคว้นกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศไปแล้ว
เริ่มต้นด้วยการที่รัฐบาลโปแลนด์ออกมาระบุว่า แคว้นคาลินินกราด ดินแดนส่วนแยกของรัสเซียที่ตั้งติดอยู่กับโปแลนด์และลิทัวเนีย ควรเปลี่ยนชื่อเป็นโครเลเวียส ซึ่งเป็นชื่อเดิมของพื้นที่นี้ที่ชาวโปแลนด์เรียก
เอกสารลับที่ถูกอ้างเป็นข้อมูลข่าวกรองสหรัฐฯ คาดสงครามยูเครน-รัสเซีย มีแนวโน้มยืดเยื้อตลอดปี
ส่องนวัตกรรมทางทหารยูเครน เบื้องหลังความสำเร็จต้านกองทัพรัสเซีย
เหตุผลก็เพราะชื่อนี้ชวนให้นึกถึงเหตุสังหารหมู่ในสมัยที่พื้นที่นี้ยังเป็นของสหภาพโซเวียต รวมถึงยังเป็นชื่อที่ไม่เหมาะสมในเวลานี้ เนื่องจากรัสเซียได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการรุกรานยูเครน
รัฐบาลรัสเซียไม่พอใจอย่างมาก และระบุว่า สิ่งที่โปแลนด์เสนอเป็นไอเดียและเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของรัฐบาลเครมลินออกมาประณามโปแลนด์ด้วยการกล่าวโจมตีว่า นี่เป็นอีกครั้งที่โปแลนด์พยายามต่อต้านและแสดงความเกลียดชังรัสเซียเช่นเดียวกับการกระทำที่ผ่านๆ มา
วิวาทะล่าสุดทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโปแลนด์และรัสเซียที่ตึงเครียดอยู่แล้วทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปี 2022 โปแลนด์เปิดประเทศรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนจำนวนมาก ปัจจุบันคาดกันว่ามีผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในโปแลนด์มากถึง 800,000 คน
นอกจากนั้นโปแลนด์ยังถอนรูปปั้นในยุคสหภาพโซเวียตออกด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศบอลติก เพื่อแสดงถึงการต่อต้านแนวคิด การรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้รัสเซียรุกานยูเครน เพื่อทวงคืนดินแดน
ส่วนบริเวณชายแดนโปแลนด์ที่ติดกับแคว้นคาลินินกราดของรัสเซีย ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทหารโปแลนด์วางรั้วลวดหนาวแน่นหนาบริเวณชายแดนความยาว 210 กิโลเมตร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประเทศ หลังรัฐบาลหวั่นเกรงว่า รัสเซียอาจขยายการรุกรานและการโจมตีด้วยการใช้พื้นที่ในคาลินินกราดเป็นจุดยุทธศาสตร์
เหตุใดพื้นที่ของรัสเซียจึงกลายมาเป็นไข่แดงถูกล้อมรอบด้วยชาติยุโรป และพื้นที่นี้มีความสำคัญยังไง?
อันที่จริงก่อนหน้าที่คาลินินกราดจะถูกแยกออกมา มันเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศบอลติกและเบลารุส
นี่คือตำแหน่งของแคว้นคาลินินกราด พื้นที่ของรัสเซียที่ไม่ติดกับประเทศ ศัพท์ทางการจะเรียกพื้นที่แบบนี้ว่า "ดินแดนส่วนแยก" หรือ Enclave
แคว้นนี้มีขนาดเพียง 223 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น หรือเล็กกว่าจังหวัดที่เล็กที่สุดในไทยอย่างสมุทรสงครามราวครึ่งหนึ่ง ทิศใต้ติดกับโปแลนด์
ทิศตะวันออกและเหนือติดกับลิทัวเนีย ส่วนทางตะวันตกติดกัยทะเลบอลติก ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งระหว่างคาลินินกราดกับรัสเซีย
ในอดีตก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง แคว้นคาลินินกราดเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปรัสเซียตะวันออก จังหวัดของอาณาจักรปรัสเซีย คนเยอรมันเรียกพื้นที่นี้ว่า โคนิกสแบร์ก ส่วนคำว่า โครเลเวียส มีความหมายเดียวกันแต่เป็นภาษาโปแลนด์คำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท
หลังสงครามโลกครั้งที่สองกองทัพนาซีพ่ายแพ้ต่อกองทัพแดงส่งผลให้พื้นที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตด้วย
หลังโซเวียตล่มสลาย รัฐต่างๆ แยกตัวเป็นประเทศใหม่ คาลินินกราดถูกแยกตัวจากแผ่นดินแม่หลัง เบลารุส ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนียประกาศเอกราชและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แคว้นนี้ก็กลายมาเป็นดินแดนส่วนแยกของรัสเซียที่ไม่ได้มีพื้นที่ติดกับรัสเซีย
ความตึงเครียดทวีขึ้นเมื่อโปแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตในปี 1999 ตามมาด้วยลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนียในปี 2002
จากแผนที่จะเห็นว่า แคว้นคาลินินกราดในปัจจจุบันถูกล้อมกรอบด้วยชาตินาโต พื้นที่นี้จึงกลายมาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซีย ในขณะเดียวกันชาตินาโตก็หวั่นเกรงเพราะแคว้นนี้มีฐานทัพเรือและมีทหารประจำการอยู่มาก
อันที่จริงเป็นสิทธิของแต่ละประเทศว่าจะเรียกดินแดนอื่นๆ ด้วยชื่อใดตามภาษาของตน รัฐบาลโปแลนด์ระบุว่าชื่อ คาลินินกราดที่ใช้กันในปัจจุบันมาจากชื่อของ มิคาอิล คาลินิน เป็นชื่อที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากในประวัติศาสตร์คาลินินเป็นหนึ่งในหกของคณะกรรมการที่ลงนามคำสั่งสังหารเชลยศึกชาวโปแลนด์จำนวน 21,000 ราย ในป่ากาตึน ช่วงทศวรรษ 1940
พรรคนาซีเป็นผู้ค้นพบหลุมฝังศพหมู่ในปี 1943 แต่ฝ่ายสหภาพโซเวียตไม่ยอมรับ และอ้างว่าผู้สังหารเป็นกองกำลังนาซี ภายหลังการสืบสวนพบเอกสารบ่งชี้ว่า โจเซฟ สตาลิน เลือกสังหารเหยื่อที่เป็นปัญญาชนเพื่อป้องกันไม่ให้โปแลนด์ลุกขึ้นมาแข็งข้อต่อต้านสหภาพโซเวียต
ด้านคนรัสเซียที่อาศัยอยู่ในแคว้นคาลินินกราดมีความคิดเห็นอย่างไร? คนที่อยู่ที่นี่ระบุว่า สำหรับพวกเขาพื้นที่นี้จะยังคงเปป็นคาลินินกราดเสมอไป
ไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่บางคนมองว่า ชาติอื่นๆ จะเรียกที่นี่ว่าอะไรก็ช่าง สุดท้ายก็เป็นปัญหาของพวกเขาเองที่ต้องไปแก้ชื่อป้ายและเอกสารต่างๆ
ด้านสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นอย่างไร? ล่าสุดกองพลน้อยกองหนึ่งของกลุ่มแวกเนอร์ละทิ้งสมรภูมิในเมืองบัคมุตแล้วหลังเผชิญกับการสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก อย่างไรก็ตามในมุมของกองกำลังยูเครน สถานการณ์ยังยากเกินไปที่จะยึดคืนเมืองนี้ได้สมบูรณ์จากรัสเซีย
รายงานจาก เซอร์ฮี เชเรวัตยี โฆษกของกองกำลังยูเครนประจำภูมิภาคตะวันออกระบุถึงสถานการณ์ล่าสุดในเมืองบัคมุตว่า กองพลน้อยของกลุ่มแวกเนอร์ได้ถอนทหารออกจากพื้นที่จริง แต่การจะยึดคืนเมืองยังไม่ใช่เรื่องที่ทำได้
เมื่อกลุ่มแวกเนอร์เสียกำลังพลและถอนทหารออกบางส่วน ทางรัฐบาลรัสเซียได้ส่งทหารอากาศและหน่วยปืนไรเฟิลมาสมทบแทน บ่งชี้ว่าบัคมุตยังคงเป็นสมรภูมิสำคัญที่รัสเซียต้องการเอาชนะให้ได้ แม้ที่ผ่านมาจะเสียเวลาและกำลังพลไปมากแล้วก็ตาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองพลน้อยของกลุ่มแวกเนอร์ที่ถอนทัพออกจากเมืองบัคมุตคือ กองพลน้อยที่ 72 สอดคล้องจากรายงานของ เยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ที่ออกมาระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่ากองพลน้อยที่ 72 ได้ละทิ้งแนวหน้าในการสู้รบจริง หลังเผชิญกับการสูญเสียกำลังพลมากถึง 500 นายสะท้อนถึงสถานการณ์เสียเปรียบของรัสเซีย และอาจมีแนวโน้มว่ากลุ่มแวกเนอร์จะไม่อาจต้านทานกองกำลังของยูเครนต่อไปได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพลและเครื่องกระสุน
อย่างไรก็ตามแม้สมรภูมิในเมืองบัคมุต รัสเซียจะยังไม่มีทีท่าว่าจะชนะ แต่สำหรับจุดอื่นๆ มีสัญญาณว่า รัสเซียเตรียมพร้อมแล้วในการรับมือกับ ปฏิบัติการโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิของยูเครน
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัสเซียเร่งขุดสนามเพลาะจำนวนมาก ตำแหน่งสำคัญๆ ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่แนวรบด้านตะวันออกบริเวณแคว้นโดเนตสก์ และแนวรบด้านใต้บริเวณคาบสมุทรไครเมีย จากแผนที่จะเห็นว่า จุดที่มีสนามเพลาะหนาแน่นที่สุดจะอยู่ที่พื้นที่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรไครเมีย บริเวณคอขอดเชื่อมระหว่างแคว้นเคอร์ซอนและไครเมีย
นอกจากสนามเพลาะรัสเซียยังสร้างกับดักที่เรียกว่า เฮดจ์ฮอกแบริเออร์ กับดักที่มีลักษณะเป็นรั้วแข็งรูปดอกจัน ทำจากเหล็กรางรถไฟ คงทนและแข็งแรงมาก ใช้สำหรับการสกัดรถถังโดยเฉพาะ
กับดักตัวที่สองมีชื่อว่า ฟันมังกร เป็นกับดักรูปสามเหลี่ยมปีรามิดทำจากคอนกรีต กับดักนี้มีน้ำหนักมากมักวางเรียงสลับฟันปลาเพื่อใช้ป้องกันไม่ให้ยานยนต์ผ่านเส้นทางไปได้ง่ายๆ ขณะนี้ฟันมังกรจำนวนมากถูกวางไว้ในหลายพื้นที่ของคาบสมุทรไครเมีย รวมถึงรัสเซียยังวางในพื้นที่ของตัวเองที่อาจจะถูกยูเครนบุก อย่าง แคว้นคราสโนดาร์ทางภาคตะวันตกด้วย
เหล่านี้คือกลยุทธ์ที่รัสเซียเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับปฏิบัติการโต้กลับในช่วงฤดูใบไม้ผลิของยูเครนแต่สิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เพราะในการสู้รบจริง ทั้งสองฝ่ายจะใช้การโจมตีจากระยะไกลด้วยจรวดหรือโดรนในการเปิดฉากก่อนที่จะส่งทหารราบเข้าไปในพื้นที่
ส่วนสถานการณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองซาโปริชเซียที่หลายฝ่ายกังวลว่าการสู้รบอาจนำไปสู่หายนะด้านนิวเคลียร์
ความกังวลล่าสุดเกิดขึ้นหลังมีข่าวว่า รัสเซียที่ปัจจุบันควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองซาโปริชเซียมีแผนที่จะย้ายพนักงานจำนวนมากถึง 2,700 คนออกจากโรงงาน รายงานระบุว่า พนักงานเหล่านี้ลงนามในสัญญาการทำงานกับบริษัทพลังงานโรซาตอมของรัสเซีย ส่งผลให้พนักกงานและครอบครัวต้องย้ายไปอาศยในรัสเซียแทน
ทางบริษัทโรซาตอมไม่ได้ระบุว่า สัญญาเป็นไปอย่างสมัครใจหรือไม่ และปัญหาขาดแคลนพนักงานที่จะเกิดขึ้นนำมาซึ่งความกังวลว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเซียอาจสูญเสียการควบคุมโดยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ
คำสั่งเตรียมย้ายพนักงานเกิดขึ้นไม่นานหลังเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียเพิ่งจะสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่รอบๆ เมือง รายงานระบุว่า ประชนชนที่อพยพมีราว 1,600 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 660 ราย สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลว่า อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดความรุนแรงหรือหายนะที่ไม่คาดคิดขึ้นในพื้นที่นี้
อย่างไรก็ตามปัจจุบันโรงไฟฟ้าซาโปริชเซียไม่ได้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว แต่ภายในยังคงหลงเหลือกากกัมมันตรังสีและวัตถุดิบด้านนิวเคลียร์ที่ยังเป็นอันตราย